วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ข้อคิดชีวิตมีสุข





1. เราไม่ได้มีชีวิตเพื่อการเฝ้านั่งเสียใจร่ำไห้ หรือ
พูดถึงแต่สิ่งที่เราทำผิดพลาดในอดีต
รู้จักให้อภัยตัวเองในสิ่งที่เราทำผิดพลาด แล้วไม่นึกถึงมันอีก2. เรียนรู้ที่จะให้อภัยผู้อื่น
ในสิ่งที่เขาทำผิดพลาดในอดีต
แล้วไม่พูดถึงมันอีก3. การปล่อยวางไม่ใช่เป็นการยอมแพ้
ตรงกันข้าม
เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งจากส่วนลึกของหัวใจของเราวันละน้อย
เพื่อเอาชนะความอ่อนแอ4. ชีวิตไม่ได้เติบโตจากการทำให้ทุกสิ่งได้ดั่งใจของเรา
แต่เป็นการยอมรับทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตของเราอย่างกล้าหาญ
รักและเข้าใจทุกสิ่งที่เราได้ตัดสินใจทำลงไปทุกครั้ง5. เรียนรู้ความจริงว่าเราไม่สามารถบังคับผู้อื่น
ให้คิดและทำในสิ่งที่เราต้องการได้
เพราะแม้แต่ตัวเราเอง
ยังทำให้เป็นอย่างที่เราต้องการไม่ได้เลย6. อย่าเสียเวลาคิดแค้นเคืองโกรธในการกระทำของผู้อื่น
ที่ส่งผลให้เราทุกข์ใจให้อภัยเขาเสีย
และหากอยากรู้สึกดีขึ้น
ใครทำอะไรไว้
ผู้นั้นย่อมได้รับผลนั้นได้ด้วยตนเอง7. วัตถุหรือภาพลวงตาภายนอกไม่เคยสามารถเติมเต็มหัวใจใครได้
การตั้งหน้าตั้งตาหาวัตถุ
หรือความพึงพอใจจากการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
เพื่อหวังว่าจะทำให้เรารู้สึกเต็มและมีความสุข
นั่นเป็นแค่ฝันลมๆแล้งๆ
การรับวัตถุทำให้เรามีความต้องการไม่รู้จบ
ขณะที่การได้รับความรักความเข้าใจจากคนที่รักอย่างเต็มเปี่ยม
จะทำให้เรามีหัวใจที่ "เต็ม" จนไม่ต้องไขว่คว้าหาวัตถุมาเติมเต็มหัวใจอีก

ภาวะโลกร้อน (Global Warming)

ภาวะโลกร้อน (Global Warming)
ภาวะโลกร้อน (Global Warming) หรือ ภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) เป็นปัญหาใหญ่ของโลกเราในปัจจุบัน สังเกตได้จาก อุณหภูมิ ของโลกที่สูงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุหลักของปัญหานี้ มาจาก ก๊าซเรือนกระจก ค่ะ (Greenhouse gases)
ปรากฏการณ์เรือนกระจก มีความสำคัญกับโลก เพราะก๊าซจำพวก คาร์บอนไดออกไซด์ หรือ มีเทน จะกักเก็บความร้อนบางส่วนไว้ในในโลก ไม่ให้สะท้อนกลับสู่บรรยากาศทั้งหมด มิฉะนั้น โลกจะกลายเป็นแบบดวงจันทร์ ที่ตอนกลางคืนหนาวจัด (และ ตอนกลางวันร้อนจัด เพราะไม่มีบรรยากาศ กรองพลังงาน จาก ดวงอาทิตย์) ซึ่งการทำให้โลกอุ่นขึ้นเช่นนี้ คล้ายกับหลักการของ เรือนกระจก (ที่ใช้ปลูกพืช) จึงเรียกว่า ปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect) ค่ะ
แต่การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของ CO2 ที่ออกมาจาก โรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ หรือการกระทำใดๆที่เผา เชื้อเพลิงฟอสซิล (เช่น ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือ สารประกอบไฮโดรคาร์บอน ) ส่งผลให้ระดับปริมาณ CO2 ในปัจจุบันสูงเกิน 300 ppm (300 ส่วน ใน ล้านส่วน) เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 แสนปี
ซึ่ง คาร์บอนไดออกไซด์ ที่มากขึ้นนี้ ได้เพิ่มการกักเก็บความร้อนไว้ในโลกของเรามากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็น ภาวะโลกร้อน ดังเช่นปัจจุบัน
ภาวะโลกร้อนภายในช่วง 10 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 มานี้ ได้มีการบันทึกถึงปีที่มีอากาศร้อนที่สุดถึง 3 ปีคือ ปี พ.ศ. 2533, พ.ศ.2538 และปี พ.ศ. 2540 แม้ว่าพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ยังมีความไม่แน่นอนหลายประการ แต่การถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ได้เปลี่ยนหัวข้อจากคำถามที่ว่า "โลกกำลังร้อนขึ้นจริงหรือ" เป็น "ผลกระทบจากการที่โลกร้อนขึ้นจะส่งผลร้ายแรง และต่อเนื่องต่อสิ่งที่มีชีวิตในโลกอย่างไร" ดังนั้น ยิ่งเราประวิงเวลาลงมือกระทำการแก้ไขออกไปเพียงใด ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งร้ายแรงมากขึ้นเท่านั้น และบุคคลที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ ลูกหลานของพวกเราเอง
สาเหตุ
ภาวะโลกร้อนเป็นภัยพิบัติที่มาถึง โดยที่เราทุกคนต่างทราบถึงสาเหตุของการเกิดเป็นอย่างดี นั่นคือ การที่มนุษย์เผาผลาญเชื้อเพลิงฟอซซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เพื่อผลิตพลังงาน เราต่างทราบดีถึงผลกระทบบางอย่างของภาวะโลกร้อน เช่น การละลายของน้ำแข็งในขั้วโลก ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ความแห้งแล้งอย่างรุนแรง การแพร่ระบาดของโรคร้ายต่างๆ อุทกภัย ปะการังเปลี่ยนสีและการเกิดพายุรุนแรงฉับพลัน โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ ประเทศตามแนวชายฝั่ง ประเทศที่เป็นเกาะ และภูมิภาคที่กำลังพัฒนาอย่างเอเชียอาคเนย์
จากการทำงานของคณะกรรมการของรัฐบาลนานาชาติ ว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีองค์การวิทยาศาสตร์ ได้ร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ เฝ้าสังเกตผลกระทบต่างๆ และได้พบหลักฐานใหม่ที่แน่ชัดว่า จากการที่ภาวะโลกร้อนขึ้นในช่วง 50 กว่าปีมานี้ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้นในทุกหนทุกแห่ง ประมาณ 1.4-5.8 องศาเซลเซียส
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กทีละน้อย แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดได้แก่ ความแห้งแล้งอย่างรุนแรง วาตภัย อุทกภัย พายุฝนฟ้าคะนอง พายุทอร์นาโด แผ่นดินถล่ม และการเกิดพายุรุนแรงฉับพลัน จากภาวะอันตรายเหล่านี้พบว่า ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ที่เสี่ยงกับการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งได้รับผลกระทบมากกว่าพื้นที่ส่วนอื่นๆ ยังไม่ได้รับการเอาใจใส่และช่วยเหลือเท่าที่ควร นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่า การที่อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น เป็นเหตุให้ปริมาณผลผลิตเพื่อการบริโภคโดยรวมลดลง ซึ่งทำให้จำนวนผู้อดอยากหิวโหยเพิ่มขึ้นอีก 60-350 ล้านคน
ในประเทศไทยและฟิลิปปินส์ มีโครงการพลังงานต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้น และการดำเนินงานของโครงการเหล่านี้ ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์วิทยาอย่างเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงของฝนที่ไม่ตกตามฤดูกาล และปริมาณน้ำฝนที่ตกในแต่ละช่วงได้เปลี่ยนแปลงไป การบุกรุกและทำลายป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ การสูงขึ้นของระดับน้ำทะเลและอุณหภูมิของน้ำทะเล ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบนิเวศน์วิทยาตามแนวชายฝั่ง และจากการที่อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้นนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนสีของน้ำทะเล ดังนั้น แนวปะการังต่างๆ จึงได้รับผลกระทบและถูกทำลายเช่นกัน
ประเทศไทยเป็นตัวอย่างของประเทศที่มีชายฝั่งทะเล ที่มีความยาวประมาณ 2,490 กิโลเมตร และเป็นแหล่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และความไม่แน่นอนของฤดูการที่ส่งผลกระทบต่อการทำเกษตรกรรม มีการคาดการณ์ว่า หากระดับน้ำทะเลสูงขึ้นอีกอย่างน้อย 1 เมตรภายในทศวรรษหน้า หาดทรายและพื้นที่ชายฝั่งในประเทศไทยจะลดน้อยลง สถานที่ตากอากาศชายทะเล รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น พัทยา และ ระยองจะได้รับผลกระทบโดยตรง แม้แต่กรุงเทพมหานคร ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงจากผลกระทบของระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นนี้เช่นกัน
ปัญหาด้านสุขภาพ ก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงนี้ด้วย เนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นที่สูงขึ้น ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของยุ่งมากขึ้น ซึ่งนำมาสู่การแพร่ระบาดของไข้มาเลเรียและไข้ส่า นอกจากนี้โรคที่เกี่ยวข้องกับน้ำ เช่น อหิวาห์ตกโรค ซึ่งจัดว่าเป็นโรคที่แพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วโรคหนึ่งในภูมิภาคนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จากอุณหภูมิและความชื้นที่สูงขึ้น คนยากจนเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ประกอบกับการให้ความรู้ในด้านการดูแลรักษาสุขภาพที่ดี ยังมีไม่เพียงพอ
ปัจจุบันนี้สัญญาณเบื้องต้นของสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ได้ปรากฏขึ้นอย่างแจ้งชัด ดังนั้น สมควรหรือไม่ที่จะรอจนกว่าจะค้นพบข้อมูลมากขึ้น หรือ มีความรู้ในการแก้ไขมากขึ้น ซึ่ง ณ เวลานั้นก็อาจสายเกินไปแล้วที่จะแก้ไขได้ กลไกของสภาวะโลกร้อน
ในสภาวะปกติ โลกเราจะได้รับพลังงานประมาณ 99.95 % จากดวงอาทิตย์ ในรูปแบบของการแผ่รังสี พลังงานที่เหลือมาจากความร้อนใต้ภิพซึ่งหลงเหลือจากการก่อตัวของโลกจากฝุ่นธุลีในอวกาศ และการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสีที่มีอยู่ในโลก
ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์มาโลกเราสามารถรักษาสมดุลย์ของพลังงานที่ได้รับอย่างดีเยี่ยม โดยมีการสะท้อนความร้อนและการแผ่รังสีจากโลกจนพลังงานสุทธิที่ได้รับในแต่ละวันเท่ากับศูนย์ ทำให้โลกมีสภาพอากาศเหมาะสมต่อสิ่งมีชีวิตหลากหลาย
กลไกหนึ่งที่ทำให้โลกเรารักษาพลังงานความร้อนไว้ได้ คือ "ปรากฏการณ์เรือนกระจก" (greenhouse effect) โดยโลกจะมีชั้นบาง ๆ ของแก๊สกลุ่มหนึ่งเรียกว่า "แก๊สเรือนกระจก" (greenhouse gas) ที่ทำหน้าที่ดักและสะท้อนความร้อนที่โลกแผ่กลับออกไปในอวกาศให้กลับเข้าไปในโลกอีก หากไม่มีแก๊สกลุ่มนี้ โลกจะไม่สามารถเก็บพลังงานไว้ได้ และจะมีอุณหภูมิแปรปรวนในแต่ละวัน แก๊สกลุ่มนี้จึงทำหน้าที่เสมือนผ้าห่มบาง ๆ ที่คลุมโลกที่หนาวเย็น
การณ์กลับกลายเป็นว่าในช่วงระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา โลกเราได้มีการสะสมแก๊สเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศมากขึ้น เนื่องจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงต่าง ๆ ที่ใช้ในกิจกรรมประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ขุดขึ้นมาจากใต้ดิน การเพิ่มขึ้นของแก๊สเรือนกระจกทำให้โลกไม่สามารถแผ่ความร้อนออกไปได้อย่างที่เคย ส่งผลให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสมือนกับโลกเรามีผ้าห่มที่หนาขึ้นนั่นเอง

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ป้องกันเส้นเลือดอุดตันด้วย ช็อกโกแลต

นักวิจัยพบว่าช๊อกโกแลตดำเพียงวันละสองช้อนโต๊ะ หรือจะแปรรูปเป็นโกโก้ร้อน 1 แก้ว ช่วยป้องกันการอุดตันของเส้นเลือดได้พอๆ กับการกินยาแอสไพริน
โครงการศึกษาผลจากยาแอสไพรินที่มีผลต่อเกร็ดเลือด โดยศาสตราจารย์ไดแอนน์เบกเกอร์ ผู้นำการวิจัยของมหาวิทยาลัย จอห์น ฮอปกินส์ ประเทศสหรัฐอเมริกากำหนดให้กลุ่มตัวอย่างออกกำลังกาย งดบุหรี่ และอาหารบางอย่าง เช่น ไวน์ ชากาแฟ และช๊อกโกแลตก่อนเข้ารับการทดลอง หลังจากนั้นนักวิจัยทำการเปรียบเทียบ ระยะเวลาที่เกล็ดเลือดจับตัวกันเป็นก้อน พบว่าเกล็ดเลือดของกลุ่มตัวอย่างที่ไม่งดช๊อกโกแลต มีเกล็ดเลือดจับตัวกันช้ากว่า
กลุ่มนักวิจัยจึงศึกษาเพิ่มเติมคุณสมบัติของเมล็ดโกโก้ และพบว่าในเมล็ดโกโก้มีสารเคมีชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า ฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญที่มีผลทางชีวเคมีที่ออกฤทธิ์คล้ายกับยาแอสไพรินที่ช่วยลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เส้นเลือด และหลอดเลือดอุดตันที่อาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุด
ก่อนหน้านี้ก็ได้มีรายงานการวิจัยที่ออกมาสนับสนุนประโยชน์ของช๊อกโกแลตอย่างต่อเนื่องอาทิ พบว่าในช๊อกโกแลตมีสารเพนเทเมอร์ที่ช่วยยับยั้งการลุกลามของเซลล์มะเร็งได้และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ

วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552

กฎเหล็กการให้ยืม

1. ถามตัวเองว่าคุ้มไหมกับการให้ยืม เพื่อนคุณยืมไปใช้ใส่วันนัดสัมภาษณ์งานสำคัญหรือเปล่า หรือจะใส่ออกเดทครั้งแรกกับหนุ่มคนรักหรือจะใส่ไปไหว้พ่อแม่ของเค้าดีละ
2. ต้องแน่ใจว่าคุณพร้อมรับมือ ถ้าเสื้อผ้าของคุณ้เกิดเสียหายจนซ่อมแซมไม่ได้
3. เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าใยสังเคราะห์อย่าง ไวนิลให้ยืมได้สบายใจเพราะไปเปลื้องขาดง่ายไม่เป็นคราบเหงื่อยหรือเครื่องดื่มที่หกใส่
4. ปฎิเสธอย่างสุภาพบอกว่าคุณจะหงุดหงิดมากถ้าเสื้อตัวโปรดเป็นอะไรไปและไม่อยากให้เกิดความรู้สึกเช่นนี้ขึ้นเลย
5. พึ่งกฎหมายเป็นคำตอบสุดท้าย ถ้าเสื้อผ้าคุณเสียหาย คุณมีสิทธิ์จะเรียกร้องค่าชดเชยตามกฎหมาย แล้วอย่าลืมขึ้นบัญชีดำชื่อเพื่อนคนนี้ด้วยละ

ทำอย่างไรให้เป็นแขกที่น่ารัก-(ความรู้ทั่วไป)

1.ไม่เป็นคนขี้บ่น ช่างติ
2.ไม่เข้าใจผิดว่าที่นั่นเป็นโรงแรม ฉะนั้นต้แองช่วยทำงานบ้าน จัดการสมบัติของตนเองให้เรียบร้อย
3.ไม่ค้นตู้เสื้อผ้าในห้องที่คุณพัก
4.ช่วยซื้อของใช้ หรืออาหารเข้าไปทานในบ้าน
5.มีของขวัญขอบคุณติดตัวไปเมื่ออกเดินทาง หรือส่งการ์ดขอบคุณ/ของขวัญหลังจากกลับถึงบ้านแล้ว สำหรับการ์ดนั้นควรเขียนด้วยลายมือมากกว่าพิมพ์หรือส่งทางอีเมล์

สมองหมูปลูกฝังสมองคน รักษาลิงสมองเสื่อมได้ผล-(ความรู้ทั่วไป)

นักวิทยาศาสตร์เตรียมจะนำมันสมองหมู ห่อด้วยของที่ทำขึ้นจากสาหร่ายทะเล มาปลูกใส่ให้กับสมองมนุษย์ เมื่อได้รับการอนุมัติจากทางการ เพื่อรักษาโรคสมองเสื่อมอย่างหนึ่งในปีหน้านี้ พวกเขากำลังเตรียมงานอย่างแข็งขัน หวังว่าจะได้ลงมือทำเป็นครั้งแรกขึ้นในสหรัฐฯ ภายในปีหน้านี้ หลังจากที่นักวิจัยของสถาบันเทคโนโลยีเซลล์สิ่งมีชีวิตของนิวซีแลนด์ เพิ่งทดลองกับลิง ได้รับความสำเร็จอย่างงดงามมาแล้ว นักวิจัยต้องการทดลองทำกับมนุษย์ เพื่อเอามาใช้รักษาโรคที่มีชื่อว่าโรคฮันติงตัน อันเป็นโรคสมองเสื่อมที่ติดต่อทางกรรมพันธุ์ มีอาการกระตุกของกล้ามเนื้อทีละน้อย เสียการควบคุมกล้ามเนื้อ สูญเสียความจำ และถึงแก่ชีวิตในที่สุด ดีแต่ว่าเป็นโรคที่พบกันน้อย ในจำนวน 100,000 คน จะมีเป็นกันสัก 1 คนเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ของนิวซีแลนด์ได้นำเอาเซลล์มันสมองหมู ห่อด้วยของที่ทำขึ้นจากสาหร่ายทะเล เพื่อป้องกันระบบภูมิคุ้มกันทำลาย ปลูกถ่ายฝังไว้ในสมองลิงที่โดนฉีดสารพิษเข้าไปเพื่อทำให้มันมีอาการโรคสมองเสื่อม หลังจากที่ได้ปลูกถ่ายเซลล์สมองหมูให้มันไปได้ 1 เดือน ได้ตรวจสมองของลิงที่ได้รับการปลูกฝังสมองหมู พบว่าเซลล์สมองของพวกมันเสียหายน้อยกว่าเพื่อนลิงตัวที่ไม่ได้รับการรักษาน้อยกว่ากันถึง 5 เท่า แต่อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมโรคสมองเสื่อมของอเมริกา ได้กล่าวแสดงความเห็นว่า สมาคมก็อยากได้วิธีรักษาแบบนี้เช่นกัน แต่คงจะต้องใช้เวลากันอีกหลายปีกว่าจะแน่ใจได้ว่า มันจะปลอดภัยกับมนุษย์.

กินโฮลวีทต้านเหงือกติดเชื้อ

โรคเหงือกอักเสบเป็นโรคที่ผู้สูงอายุต้องทรมานอยู่เสมอ และยังเป็นสาเหตุให้ฟันหลุดร่วง โดยเฉพาะคนที่เป็นเบาหวาน
จากผลการทดลองของ US Health Professional Study ซึ่งคัดเลือกชายทั้งหมด 34,160 คน อายุระหว่าง 40-75 ปี เพื่อตรวจหาหลักฐานสนับสนุนถึงความเกี่ยวโยงระหว่างปัจจัยของอาหาร และภาวะเหงือกติดเชื้อ ปรากฏว่ากลุ่มชายที่ตอนวัยหนุ่มมีสุขภาพแข็งแรงและปลอดเบาหวาน ได้รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงไปจนจบการทดลอง ซึ่งได้ปรับให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของแต่ละคนแล้วมีแนวโน้มเหงือกติดเชื้อน้อยกว่ากลุ่มที่รับประทานอาหารกากใยน้อยถึง 23%
ดังนั้นจึงมีนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเมคมาสเตอร์ ในประเทศแคนาดาจึงสรุปว่า การรับประทานที่มีกากใยสูงที่ไม่เพิ่มแคลอรี จะช่วยให้ผู้สูงอายุลดอัตราเสี่ยงเป็นโรคเหงือกได้ อย่างไรก็ตามอย่ามัวแต่รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงจนลืมรักษาสุขภาพปากและฟันนะคะ มิฉะนั้นอาจมีปัญหาช่องปากมากขึ้นกว่าเดิม

วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เร่งการเผาผลาญด้วยการดื่มน้ำ








ในร่างกายของเรามีน้ำเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของร่างกาย แต่ทำไมดื่มน้ำเป็นลิตรจึงไม่อ้วน แถมการดื่มน้ำมากๆ ยังช่วยลดไขมันในร่างกายได้อีกด้วย
การดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ทุกวันเพื่อสุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่เราทราบกันดีแต่ดื่มน้ำยังช่วยในการละลายไขมันอีกด้วย เพราะตามปกติแล้วการดื่มน้ำในปริมาณที่ร่างกายต้องการ จะช่วยให้ตับทำงานได้เต็มที่ ซึ่งหน้าที่หลักของตับนั้นก็จะช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ตามซอกหลืบของร่างกายให้เปลี่ยนเป็นพลังงานได้และน้ำก็ยังเป็นตัวการสำคัญที่ช่วยให้การเผาผลาญไขมันดีขึ้น แต่ถ้าร่างกายขาดน้ำก็จะทำให้ตับทำงานไม่เต็มที่ การเผาผลาญไขมันก็ลดลงด้วย
การดื่มน้ำน้อยจึงส่งผลให้การเผาผลาญไขมันทำได้น้อย อาหารที่กินเพิ่มเข้าไปจะไปเพิ่มการสะสมไขมันในร่างกายมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการ

วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2552

รู้จักกับสารส้มระงับกลิ่นกาย




สารส้ม หรือ Alum มาจากภาษาละตินคำว่า.. "Alumen" แปลว่า.."สารที่ทำให้หดตัว (astringent)" ซึ่งเป็นเกลือเชิงซ้อนของสารประกอบที่มีธาตุอะลูมิเนียม และซัลเฟต เป็นส่วนประกอบหลักแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ - อะลูมิเนียมซัลเฟต ลักษณะเป็นก้อนผงสีขาว- โพแทสเซียมอะลั่ม ลักษณะเป็นผลึกใสไม่มีสี- แอมโมเนียมอะลั่ม ลักษณะเป็นผลึกใสไม่มีสีทุกประเภทสามารถนำไปใช้ประโยชน์แบบเดียวกันได้กลิ่นที่เกิดจากแบคทีเรียเป็นต้นเหตุที่ทำให้เรามีกลิ่นตัว ด้วยคุณสมบัติของสารส้มที่ช่วยลดกลิ่นและแบคทีเรีย จึงสามารถนำสารส้มมาใช้กำจัดกลิ่นตัวได้ 100 % นานถึง 24 ชั่วโมง และยังถ่วงการเกิดกลิ่นได้ไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมงอีกด้วย โดยตัวของสารส้มไม่มีอันตรายต่อผิวหนัง เพราะไม่ได้กลับเข้าสู่ผิวหนัง จึงไม่เกิดอาการแพ้ในปัจจุบันนิยมนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นตัวทาที่รักแร้กันมากเพราะไม่ทำให้รักแร้ดำ มีหลายแบบ เช่น แบบแท่ง, แบบผงแป้ง, แบบโรลออน และแบบสเปรย์ ซึ่งมีข้อดีแตกต่างกันไป แล้วแต่ความเหมาะสมที่ผู้ใช้จะเลือกซื้อ สิ่งที่ควรดูก่อนตัดสินใจซื้อ- กรณีที่ไม่ใช่ผลึกสารส้ม 100% (มีส่วนประกอบอื่นๆ เช่น สี และกลิ่นด้วย)ควรเลือกที่มีส่วนประกอบของ อะลูมิเนียมซัลเฟต โพแทสเซียมอะลัม หรือแอมโมเนียมอะลัม ในปริมาณที่มากที่สุด เพื่อประสิทธิภาพที่มั่นใจได้ - กรณีที่เป็นโรลออน สเปรย์ และผงแป้ง ควรตรวจเช็คสภาพของผลิตภัณฑ์ วันผลิต หรือวันหมดอายุทุกครั้ง แม้ว่าสารส้มจะช่วยระงับกลิ่น แตก็ไม่ได้กำจัดเชื้อราดังนั้นแม้ตัวไม่เหม็นก็ต้องอาบน้ำ ไม่อย่างนั้นอาจมีโรคผิวหนังประเภทอื่นๆ เกิดขึ้นแทน