Copy มาจาก ปฏิทินของชาวมายากับปี 2012 ฤาโลกจะเปลี่ยนไปบทความวันนี้ เป็นข้อมูลเก่าแก่ที่ถูกทิ้งไว้นับพันๆ ปีโดยไม่ มีคนสนใจ ข้อมูลที่มีส่วนหนึ่งพ้องจองกับความเห็นและการคาดการณ์ทาง ด้านวิทยาศาสตร์แห่งยุคใหม่ ที่กล่าวมาข้างบนนั้นอย่างน่าแปลกใจ แต่ส่วนหนึ่งจะเป็นประเด็นทางจิตวิญญาณ โดยเฉพาะการเปลี่ยนย้าย กระบวนทัศน์ของมนุษยชาติและสังคมอย่างน่าสนใจ แม้ว่าอีกส่วนใหญ่ของ ข้อมูลเก่าแก่ที่ว่านี้จะเป็นคำทำนาย (กินเวลายาวนานถึง 64 ล้านปีของอ นาคต) ที่อยู่นอกความรู้ความเข้าใจจนเกินไป จนเป็นเหตุให้ข้อมูลถูกโยน ทิ้งหรือเก็บไว้จนหลงลืมกันไปทั้งหมด กระทั่งมีการรื้อฟื้นนำมาศึกษาติดตาม กันใหม่เมื่อทศวรรษที่แล้วๆ มานี้เองข้อมูลส่วนหนึ่งที่น่าสนใจดังกล่าว จึงเป็นเรื่องที่นักศึกษาด้าน ความสัมพันธ์ของวิชาความรู้ต่างสาขาน่าจะลองอ่านดู จริงๆ แล้วข้อมูลทั้ง หมดที่จะนำมาเล่าต่อไปนี้ เป็นกรณีศึกษาของโครงการรายวิชาของสถาบัน ความสัมพันธ์ทางความรู้ที่คณะหนึ่งของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย (California Insitute of Integral Studies) และกำลังเป็นประเด็นร้อนที่พูด กันมากในประเทศตะวันตกในเวลานี้ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เรียกกันว่ากลุ่ม นิวเอจ (newagers) และกลุ่มวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (Cultural Creatives or CC) ด้วย นั่นคือสภาพของความสะท้านสะเทือนระดับโลกที่จะเกิดขึ้น ในปี 2012 และหลังจากนั้น (the shock of 2012) ซึ่งก็เป็นช่วงเวลา เดียวกับช่วงเวลาของการเดินทางของจิตวิญญาณ สู่มิติของธรรมจิตธรรม วิญญาณ (spiritual dimension)ข้อมูลดังกล่าว ได้มีการบันทึกเอาไว้ในปฏิทินของชาวเผ่า มายาแห่งอเมริกากลาง (Maya Calendar) มาตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของคริสตกาล ชาวมายาเป็นชนเผ่าพันธุ์หนึ่งที่อยู่บริเวณพื้นที่ของกัวเตมาลา และบริเวณที่ เผ่าเซียปาสของเม็กซิโกอาศัยในปัจจุบัน แต่ไม่มีใครรู้ที่มาของชาวมายาว่า มาจากไหน เพราะเป็นชนผิวขาวร่างสูงและจมูกโด่ง มีริมฝีปากบางที่เป็น ตรงกันข้ามกับเผ่าโอลเม็คที่เป็นชนเผ่าเก่าแก่ที่สุดของอเมริกากลาง เป็นตรง กันข้ามในทุกกรณีดังภาพวาดภาพปั้นที่หลงเหลือมาตั้งแต่ช่วงเวลาก่อนคริสต กาล (อารยธรรม La Venta อาจย้อนหลังไปถึง 800 ปีก่อนคริสตกาล) นักมนุษยศาสตร์และนักโบราณคดีบางคนคิดว่า ชาวมายามีที่มาจากชาวกรี กหรืออียิปต์ในยุคหลังๆ (Jonarthan Leonard ; Ancient America, Time- Life Book, 1968) และที่น่าแปลกอีกก็คือ อยู่ๆ ชาวมายาทั้งเผ่าพันธุ์ก็ สลายหายตัวไปโดยไร้ร่องรอยหรือหลักฐานทางวิชาการใดๆ หลงเหลือให้นัก โบราณคดีสืบเสาะได้เลยปฏิทินของชาวมายานั้นเป็นผลของการคำนวณทางดาราศาสตร์ ที่แม่นยำที่สุดยิ่งกว่าปฏิทินใดๆ การคำนวณเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์ตามที่ บันทึกไว้นั้น (ชาวมายามีปฏิทินหลักหนึ่งปฏิทิน และมีปฏิทินที่คำนวณ เหตุการณ์ทางดาราศาสตร์อีก 22 ปฏิทิน) ที่มีความแม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อ และยังไม่เคยปรากฏว่าผิดไปจากความจริง หรือแตกต่างไปจากการคำนวณ ของนักดาราศาสตร์ในเวลาปัจจุบันแม้แต่รายการเดียว ดังรายละเอียดบาง อย่างของปฏิทินของชาวมายาที่เอามาลงเพื่อให้ผู้อ่านสนใจจะได้พิจารณา และอาจติดตามต่อไปจากเอกสารอ้างอิงไว้ที่ท้ายของบทความนี้ชาวมายาสามารถคำนวณเวลาของการโคจรของดาวเคราะห์วิ่ง รอบดวงอาทิตย์ ที่ชาวมายารู้แต่แรกว่าเป็นแกนกลางของระบบสุริยะ ระบบที่เป็นเพียงส่วนน้อยส่วนหนึ่งของแขน (arm) หนึ่งของกาแล็กซีที่ชาว มายาบอกว่ามีแกนที่เป็นดวงอาทิตย์ศูนย์กลางอีกดวงหนึ่ง (sun alcione เป็นดาวฤกษ์ในกลุ่มไพลเอดส์) ปฏิทินของชาวมายาระบุว่า ดาวศุกร์ใช้เวลา เดินทางไปรอบดวงอาทิตย์ 584 วัน ซึ่งเท่ากับที่เป็นเวลาที่เรารู้กันทุกวันนี้ หรือบันทึกว่าโลกใช้เวลาเดินทางรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบหรือหนึ่งปีเท่ากับ 365.2420 วัน ซึ่งตัวเลขที่แท้จริงทางดาราศาสตร์ปัจจุบันคือ 365.2422 วัน ปฏิทินของชาวมายายังระบุว่า ระบบสุริยะมีวัฏจักรของการเคลื่อนที่ไออยู่ใน ระนาบเดียวกัน (ecliptic) กับระนาบของแกนของแขนกาแล็กซีที่กล่าวมา ข้างต้นในทุกๆ 26,000 ปี โดยมีครึ่งหนึ่งของวัฏจักร จะมีวันที่เรียกว่า อะควิน็อกซ์ หรือวันที่มีเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนเปลี่ยนไป (เช่นวันที่ 23 กันยายน คือวันอะควิน็อกซ์ของฤดูใบไม้ผลิของปฏิทินของปัจจุบัน) ระบบสุริยะ (รวมทั้งโลกและดาวเคราะห์ทั้งหลาย) จะเข้าสู่ระนาบเช่นนั้นใน เดือนธันวาคม ปี 2012 นี้หลังจากปี 2012 มีสี่ประการที่จะเกิดขึ้นคือ..1.มนุษยชาติจะก้าวล่วงเทคโนโลยีที่เราใช้และรู้จักในขณะนี้ แทบทั้งหมด2.มนุษยชาติจะก้าวล่วงรูปแบบของเวลาและเงินในรูปที่ใช้กัน ในขณะนี้3.เราจะผ่านเข้าสู่มิติที่ห้าอันเป็นมิติจิตวิญญาณ - จากมิติที่สี่ - วิกฤติที่เจ็บปวด4.ระนาบของระบบสุริยะจะอยู่ในระนาบเดียวกับระนาบของ กาแล็กซีปฏิทินมายาบอกด้วยว่า ในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 1987 กระทั่งถึงช่วงปี 2012 เป็นช่วงเวลาระหว่างกลางของมิติที่ 4 สู่มิติที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงอันตราย เพราะเป็นช่วงที่จะมีความล่มสลายในทางธรรมชาติ และจิตวิญญาณของชาวโลกส่วนใหญ่ แต่ขณะเดียวกันก็จะมีการเปลี่ยน แปลงทางจิตวิญญาณของคนอีกส่วนหนึ่ง (apocalypse แปลว่าการเปิดเผยที่ หมายถึงวิวัฒนาการทางจิตอีกด้วย) น่าแปลกที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวของ เวลาจะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของความถี่ของกระแสแม่เหล็กโลก ที่สะท้อนออกมาตามการหมุนรอบตัวเองของโลก (Schumann Resonance ที่เคยคงที่ที่ความถี่ 7.8 เฮิรตซ์ หรือรอบต่อวินาทีทุกวันนี้ได้สูงขึ้นเป็น 11.8 รอบต่อวินาที)โดยปฏิทินของชาวมายา มิติที่ 5 หรือหลังปี 2012 คือช่วงเวลาที่มนุษยชาติส่วนหนึ่ง จะมีวิวัฒนาการสู่แสงใสกระจ่าง (แปลกอีกที่ใช้คำว่า clear light เช่นเดียวกับในคัมภีร์พีระมิดของอียิปต์ และคัมภีร์มรณศาสตร์ของทิเบต ที่มีความหมายสู่จิตวิญญาณบริสุทธิ์) (Erich Von Danikens, Chariots of the Gods, 1970 ; Jonathan Leonard ; Ancient America, 1968 ; Handbook of Atmospheric Electro-dynamics, 1995 ; 2012 Unlimited.ชาวพุทธทุกคนทราบดีว่า พุทธศาสนามีอายุ 5,000 ปี แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นค่ะประเด็นอยู่ที่ ในวันภัยพิบัติ คนที่จะรอดชีวิต ต้องมีศีลมีธรรม จากคุณ : dee - [22 พ.ค.52 22:28]
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น